วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

เกาะพะงัน





กาะพะงัน ใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากสมุย ของ จ.สุราษฯ คนพะงันยังคงอาชีพสวนมะพร้าวและประมงเป็นหลัก ส่วนใหญ่อาศัยอยู่แถวอ่าวโฉลกหลำ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบบรรยากาศสงบเหมือนสมุยวันก่อนๆ บังกะโลที่พักแบบเรียบง่าย งานฟลูมูนปาร์ตี้ กิจกรรมอันโด่งดังระดับโลกบนเกาะพงัน มีอยู่ให้เห็นอยู่ทุกคืนพระจันทร์เต็มดวง หาดริ้นเป็นหาดที่มีชายหาดสวยงาม และจัดงานฟลูมูนเป็นประจำ





 การจัดงาน ฟลูมูล ปาร์ตี้ ที่เกิดขึ้นบนชายหาดลิ้นใน-ลิ้นนอกเกาะพงันส่งผลให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวโดยรวมของเกาะพงันออกมาในเชิงลบ ถึงเวลาปรับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเกาะพงัน โดยดึงทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ บนเกาะถือว่ายังอุดมสมบูรณ์เป็นจุดขายสำคัญออกมาขาย พร้อมนำเสนอวัฒนธรรมไทยของคนพื้นเมืองที่มีอยู่เชื่อมต่อการท่องเที่ยวเกาะสมุย

http://www.marinerthai.com/sara/view.php?No=1171

เกาะเสม็ด



เกาะเสม็ด เชื่อกันว่าคือเกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อของระยอง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทย และชาวต่างประเทศ ตั้งอยู่ตำบลเพ อำเภอเมือง อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่. เกาะเสม็ด มีลักษณะเป็นเกาะรูปสามเหลี่ยม ส่วนฐานของเกาะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งหันเข้าสู่ฝั่งบ้านเพ มีภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก มีที่ราบอยู่ตามริมฝั่งชายหาด ส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือ และตะวันออก เหตุที่มีชื่อว่า "เกาะเสม็ด" เพราะเกาะนี้มีต้นเสม็ดขาว และเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก.




บนเกาะมีถนนสายเดียวเป็นทั้งคอนกรีตบ้างสลับกับลูกรังและดิน สองแถวดูจะเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด อัตราค่าโดยสาร หาดทรายแก้วคนละ 10 บาท เหมา 100 บาท อ่าวไผ่คนละ 20 บาท เหมา 150 บาท อ่าวพร้าวอ่าววงเดือนคนละ 30 บาท เหมา 200 บาท อ่าวหวาย อ่าวเทียน 40 บาทต่อคน เหมา 300-400 บาท อ่าวกิ่วคนละ 50 บาท เหมา 500 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการจญภัยและสนใจมอเตอร์ไซต์เช่า ขับไม่คล่องอย่าลองจะดีกว่าเพราะสภาพถนนเป็นดินสลับหินและลาดชัน ราคาเริ่มต้น 300 บาทต่อวัน ขึ่นอยู่กับการต่อรอง


ถ้ำรอดที่สามารถเดินทะลุได้ครับ



http://www.koh-samet.org/go-to-samet.htm

เพลินวาน







“เพลินวาน” ให้คำจำกัดความตัวเองว่า เป็นหมู่บ้านย้อนยุค ภายในประกอบไปด้วย ร้านค้าย่อยๆหลายร้าน ทั้งร้านกาแฟโบราณ รถขายปลาหมึก ห้องเสื้อย้อนยุค ร้านขายของเล่น ร้านเหล้าสมัยอดีต  มุมงานวัด ปาเป้า ยิงปืน ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในหนัง 2499 ประมาณนั้น ยิ่งได้เห็น staff และนักท่องเที่ยวหลายท่าน แต่ตัวย้อนยุค มาเที่ยวที่นี่กันด้วย ยิ่งแยกไม่ออกแล้ว ว่าเราอยู่ยุคไหนกันแน่ เข้ามาเหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่ง  ผมเชื่อว่า ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และเพื่อนๆ ถ้าได้มาเพลินวาน จะต้องเดินเล่น และนั่งเล่าเรื่องความหลังกันไม่รู้จบ เพิ่มสเน่ห์ให้เมืองหัวหินเป็นแหล่งพักผ่อนที่น่าสนใจ สำหรับการพักสงบ ได้หยุดและมองเรื่องราวเก่าๆอีกครั้ง 



ชีวิตหลายท่านคงผ่านเรื่องราวมามากมาย และยังคงมีความทรงจำ ที่ไม่อาจลืมเลือน การได้หยุด และมองสิ่งรอบกายบ้าง ก็อาจทำให้เรา ได้มีโอกาสใช้เวลาที่มีอยู่นั้นอย่างมีค่าที่สุด ให้เวลากับมัน เพื่อเวลาที่ผ่านมาจะไม่สูญเปล่าไป


ที่ร้านขายของเล่น ก็มีขนมสมัยอดียมาขายให้เราได้เลือกมากมาย ยังมีโบสการ์ดเก๋ ให้ได้ส่งถึงความทรงจำกัน ลองเขียนเรื่องอดีตของคุณที่พบเจอที่เพลินวาน ให้กับเพื่อนและคนที่คุณรัก ได้มาเพลิดเพลินกับความทรงจำเก่าๆกันดูซิครับ ไม่แน่ เราอาจได้ความทรงจำดีที่บอกใครไม่ได้ก็เป็นได้


http://www.muangthai.com/thaidata/13803




วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

สามพันโบก(แกรนด์แคนยอนเมืองไทย)


        สามพันโบก ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี


                     สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี ลักษณะเป็นแก่งหิน ขนาดต่างๆ มากกว่า 3,000 แอ่ง ชาวบ้านมักจะเรียกที่แห่งนี้ว่า สามพันโบก คำว่า โบก ก็หมายถึงแอ่งน้ำ นั่นเอง สามพันโบก เกิดจากกระแสน้ำโขงกัดเซาะ จึงทำให้มีลักษณะต่างๆ อย่างสวยงาม ฤดูที่เหมาะแก่การมาชม คือ ช่วงฤดูแล้ง บรรยากาศช่วงเย็นๆ สวยงามมาก ดูคล้ายกับแกรนด์แคนยอน ประเทศสหรัฐอเมริกามาก จนอาจขนานนามสถานที่แห่งนี้ได้ว่า แกรนด์แคนยอนเมืองสยาม สามพันโบกเมืองอุบล

ตอนที่น้ำลดจะมีแอ่งน้ำเล็กน้อยอยู่เต็มลำน้ำ

บรรยากาสยามเย็นที่ความสวยงามมาก


ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่ง ท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510 ในภาพของตลาดลอยน้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือพายลำย่อมบรรทุกสินค้าที่จำเป็น ต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน ใส่หมวกงอบใบลาน พายเรือเร่ขายแลก เปลี่ยนสินค้า ในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลัก ปัจจุบันได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่าง ประเทศเข้ามา เที่ยวชมวิถีชีวิต และการค้าขายในตลาดน้ำแห่งแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ตลาดน้ำดำเนินสะดวก  เป็นตลาด เก่าแก่นับร้อยปี ซึ่งได้ขุดคลองดำเนินสะดวกขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงเห็นว่าการคมนาคม ในท้องถิ่นนี้ไม่มีถนนที่เชื่อมกับอำเภออื่นๆ ส่วนมากใช้เรือเป็นพาหนะ โดยคลองนี้จะ เชื่อมแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง เข้าไว้ด้วยกัน ใช้เวลาขุดประมาณ 2 ปี ที่มาของชื่อคลองได้รับพระราชทาน จากรัชกาลที่

ในอดีตตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นศูนย์รวมในการค้าขาย พืชผักและผลไม้ตามฤดูกาลจากเรือกสวนไร่นาของ เกษตรกรในย่านนั้น แต่ปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นกึ่งตลาดบกตลาดน้ำ คือ มีของขายทั้งบนบกและในเรือ มา เที่ยวที่ตลาดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน เพราะมีทางเดินที่มีหลังคาตลอดสองฝั่งของตลาด จึงทำให้เดินเที่ยวชม ตลาดได้ อย่างสบาย ๆ คลองนี้เป็นคลองที่คนใน จ. ราชบุรี จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรสงคราม ไปมาหาสู่กัน มีความหมาย ตรงกับชื่อ ดำเนินสะดวกคือ การเดินทางสะดวก แม้ทุกวันนี้ จุดประสงค์เริ่มแรกจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังมี พ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยว เดินทางไปอย่างล้นหลาม ปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวก จึงเปรียบเสมือน เป็นที่นัดของเรือร้อยๆลำเพื่อชุมนุมขายสินค้าการเกษตร และสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองตลอดจนร้านขายของ ที่รับจากโรงงานในกรุงเทพหรือจากต่างจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับ นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแล้วคลองที่เต็มไป ด้วยสินค้าทุกชนิดที่เขาตื่นตาตื่นราคาเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ เดียวตลาดน้ำจะเริ่มคึกคัก ตั้งแต่ 6.00 น.ไป จน ถึงประมาณ 11.00 น. นอกจากเขาจะได้ชมตลาดน้ำแล้วชีวิตสองฝั่ง คลองของชาวไทยชนบทยังเป็นภาพที่ น่ามองอย่างมากสลับกับเรือกสวนและไร่นาของชาวบ้านส่วนใหญ่ของพื้นที่ ี่แถบนี้ต่างจากภาพที่เขาคุ้นตาตาม เมืองใหญ่ๆ ไปลิบลับ

http://www.paiduaykan.com/76_province/central/ratchaburi/damnoen.html



สวนนงนุช ชลบุรี


สวนนงนุช สถานที่ท่องเที่ยวเอกชนในบรรยากาศธรรมชาติ ที่มีการจัดการพื้นที่ภายใต้แนวคิด "จัดสวนให้คนมาเที่ยว"ของคุณนงนุช ตันสัจจา ผู้ก่อตั้งสวนนงนุช มีการสร้างสรรค์ตกแต่งให้มีบรรยากาศแบบธรรมชาติ มีน้ำตกจำลอง ทะเลสาบ สวนไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด โดยมีสวนกล้วยไม้ สวนเฟิร์น สับปะรดสี สวนไม้พุ่ม ไม้ดัด สวนหิน ตะบองเพชร และปาล์มจากทั่วทุกมุมโลก  ภายในสวนนงนุชมีสถานที่น่าสนใจมากกว่า 60 จุด มีสวนสัตว์และศูนย์วัฒนธรรมไทยเปิดแสดงศิลปะการฟ้อนรำของแต่ละภาค ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว กีฬาพื้นบ้านและการแสดงของช้างแสนรู้เปิดแสดงทุกวัน ในพื้นที่เกือบ 1500 ไร่ของสวนนงนุชที่เต็มไปด้วยพฤกษานานาพรรณ สิ่งปลูกสร้างสวยงามมากมาย สัตว์เลี้ยงน้อยใหญ่อีกหลากหลายชนิด ได้รับการดูแลอย่างดี มีการปรับปรุงดัดแปลงอยู่ตลอดเวลา นักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพที่สวยงาม แปลกใหม่ สดชื่น ในทุกครั้งที่เข้ามาเที่ยวชม 


 สวนหิน  เป็นการนำหินขนาดใหญ่ มาจัดเรียงเป็นเนินขนาดใหญ่ผสมผสานกับพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดเช่น ปาล์ม ปรง ต้นพญาเงิน (ไม้จากฟลอริด้า)ไม้ใบอวบ และอื่นๆ ที่มีสีเงินสวยงามและหายาก







โรงแสดง (Thai Cultural Hall)
เป็นสถานที่จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ที่จัดตกแต่งประดับฉากอย่างสวยงาม เหมาะสมกับชุดการแสดงในแต่ละชุด ที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนช้อย งดงาม ของศาสตร์อีกแขนงหนึ่ง ของคนไทย เช่น ระบำสี่ภาค ระบำเทพนฤมิต มหกรรมกลอง ยุทธหัตถี ฯลฯ และลานแสดงช้างแสนรู้ ด้านหลังของโรงแสดง ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับการแสดงความสามารถพิเศษของช้างแสนรู้ อันสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจ กว่า 30 เชือก เช่น ช้างเล่นฟุตบอล บาสเกตบอล ตีกอล์ฟ วาดรูป นวดคน ฯลฯ ซึ่งเปิดการแสดงทุกวัน วันละ 4 รอบ คือ 9.45 น. 10.30 น. 15.00 น. และ 15.45 น. รอบละ 1 ชั่วโมง


 สวนสัตว์ (Mini Zoo)
ชมและใกล้ชิดกับความน่ารักของสัตว์ต่างๆ เช่น ลิงซิมแปนซี อุรังอุตัง เสือโคร่ง ที่สามารถถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งชมสวนนกและสัตว์ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกเงือก กวาง เสือ สวนนกน้ำที่มีหลายชนิด และรูปปั้นสัตว์อันแสนน่ารัก ในอริยาบทต่างๆ ที่ประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และเป็นที่ชอบใจของเด็กๆ และนักท่องเที่ยวทั่วไป



พระราชวังบางปะอิน



ตั้งอยู่ในอำเภอบางปะอิน ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะเมืองมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กม. โดยใช้เส้นทางที่แยกจากเจดีย์สามปลื้มผ่านวัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิง ไปยังบางปะอิน หากมาจากกรุงเทพฯ ตามถนนพหลโยธิน จะมีทางแยกซ้ายบริเวณกม.ที่35 ไปพระราชวังบางปะอินเป็นระยะทางอีก 6 กม. นอกจากนี้ยังมีบริการรถโดยสารจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ และรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพงมายังอำเภอบางปะอินทุกวัน พระราชวังบางปะอิน เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ไม่เว้นวันหยูดราชการ) ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น.
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร
     อยู่ทางทิศตะวันออกตรงข้ามกับสระน้ำ เป็นพระที่นั่งเรือนไม้หมู่ทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีเฉลียงตามแบบชาเลตของสวิส ทาสีเขียวอ่อนแก่สลับกันด้วยงานช่างที่ประณีต สิ่งประดับตกแต่งภายใน ประกอบด้วย เครื่องไม้มะฮอกกานีจัดสลับลายทองทับที่สั่งจากยุโรปทั้งสิ้น นอกนั้นเป็นสิ่งของหายากในประเทศ อันเป็นเครื่องราชบรรณาการจากหัวเมืองต่างๆ ทั่วราชอาณาเขตรอบๆ มีสสนดอกไม้สวยงาม เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรได้เกิดเพลิงไหม้ ขณะที่มีการ
ซ่อมรักษาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2481 ทำให้พระที่นั่งถูกทำลายไปกับกอง เพลิงหมดสิ้นทั้งองค์คงเหลือแต่หอน้ำ ปัจจุบัน



หอวิฑูรทัศนา   เป็นพระที่นั่งหอสูงยอดมน ตั้งอยู่กลางเกาะน้อยในสวนเขตพระราชวังชั้นในระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรกับพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่ง 3 ชั้น มีบันไดเวียน เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศบ้านเมืองโดยรอบสร้างในรัชกาลที่5 เมื่อปี พ.ศ. 2424



http://www.ayutthaya.org/attractions/ayutthaya_Bangpain02.html


ตลาดน้ำ 4 ภาค


ตลาดน้ำสี่ภาค  เป็นตลาดเปิดใหม่ ย้อนยุค ณ ที่ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) ยังมีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชขาติจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม แล้วยังได้นั่งเรือพายชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งของแม่น้ำ รวมไปถึงสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในการค้าขาย ทางน้ำ ในที่ตลาดน้ำ 4 ภาค ท่านยังได้พบกับร้านค้าเรือนไทยด้วยไม้สักทั้งหลังที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำ 4 ภาค(พัทยา) จุดเด่นของเรือนไม้สักของแต่ละโซนภาคในประเทศไทยจะสังเกตุง่าย ๆ คือ หน้าจั่วที่มี ลักษณะแตกต่างกันเช่น เรือนภาคเหนือ มีเอกลักษณะพิเศษคือ กาแลไม้แกะสลัก อย่างงดงาม มีจำนวน 43 หลัง ซุ้มลีลาวดี และซุ้มกล้วยไม้จะเป็นจุดสำหรับพักผ่อน แล้วยังรวมไปถึงลานล้อที่เป็นลาน "กิจกรรมการแสดงของภาคเหนือ" เรือนภาคกลางจะตกแต่งบนยอดจั่วที่เรียกว่า "ปั้นลม" มีจำนวนรวม 31 หลัง มีลานของการแสดงอยู่ 2 ลานจะได้แก่ ลานเถิดเทิง และลานบางระจัน, ต่อมาคือเรือนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ (ภาคอีสาน) ยอดของจั่วจะเป็นรูปรัศมีสีของพระอาทิตย์เรืองรอง เรียกว่า "ยอดธง" ประกอบด้วยเรือน 22 หลัง แล้วยังมีลานของหมอลำเป็นการแสดง, เรือนสุดท้ายคือ เรือนของภาคใต้ มียอดจั่วที่เรียกว่า ปีกผีเสื้อ ประกอบด้วยเรือนจำนวน 15 หลัง มีซุ้มเฟื่องฟ้า ลานเบตง และลานโนราห์ เป็นลานกิจกรรมการแสดง  ความตั้งใจจริงเพื่อให้ตลาด น้ำ 4 ภาค(พัทยา) แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมของไทยเรียน รู้วิถีชีวิตพอเพียงที่สัมผัสได้


ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมของไทย แห่งใหม่ที่อยู่ท่ามกลางใจเมืองพัทยา สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม ที่ได้จำลองวิธีชีวิตความเป็นอยู่ของชนชาวไทยที่เรียบง่าย เรียนรู้วิถีพอเดียงดั้งเดิมที่ผู้พันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตกาลสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ของทั้ง 4 ภาคในประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉัยงเหนือ(ภาคอีสาน) และ ภาคกลาง







วัดพระธาตุแช่แห้ง


พระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุแช่แห้ง หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตี๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง ประดิษฐานอยู่ ณ อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต
ตัวพระธาตุตั้งอยู่บนเชิงเนินปูด้วยอิฐ ลาดขึ้นไปยังยอดเนิน กว้างประมาณ 20 วา มีบันไดนาคขนาบทั้งสองข้าง องค์พระเจดีย์เป็นแบบล้านนาไทย ฐานเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนกันขึ้นไปจนสูง ใช้แผ่นทองเหลืองบุรอบฐาน แล้วลงรักปิดทอง จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง เจ้านครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจาก กรุงสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง และตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้ และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง





พระธาตุแช่แห้ง องค์พระธาตุส่องประกายสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น ทรงระฆัง สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากเจดีย์พระธาตุหริภุญไชย

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

ชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม



 อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม  อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี    ประกอบด้วย สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่านานาชนิด มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย เช่น  ผาชัน   น้ำตกสร้อยสวรรค์  เสาเฉลียง   ถ้ำปาฏิหารย์  ภูนาทาม เป็นต้น อีกทั้งยังได้มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี ที่บริเวณผาขาม ผาแต้ม ผาเจ็ก ผาเมย    และถือได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติ แห่งแรกในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดน ระหว่างประเทศไทย     และประเทศลาวเป็นแนวเขตอุทยานแห่งชาติที่ยาว  ในอดีต ชาวบ้านท้องถิ่นที่ทำกินในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ป่าภูผา น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้าไปในป่าดังกล่าว เนื่องจากมีความเชื่อว่า “ผาแต้มเป็นเขตต้องห้าม ภูผาเหล่านี้มีความศักดิ์สิทธิ์นักเป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไปมักมีอันเป็นไป      อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ”    พื้นที่ป่าภูผาบริเวณผาแต้มได้ถูกเปิดเผยจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป    เมื่อคณะอาจารย์และนักศึกษาจากภาควิชามนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากรได้มาทำการสำรวจและค้นพบภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้ม ท้องที่บ้านกุ่ม   ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบกับสภาพป่าในบริเวณใกล้เคียงยังอุดมสมบูรณ์    จึงได้ทำหนังสือบันทึกจากภาควิชาฯ    ลงวันที่   26 พฤษภาคม พ.ศ.2524 เสนอต่อ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ขอให้จัดตั้งป่าภูผาในบริเวณผาแต้มเป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งกองอุทยานแห่งชาติได้ให้ นายเสงี่ยม จันทร์แจ่ม นักวิชาการป่าไม้ 4 ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดงหินกอง

ตอนพระอาทิตย์ขึ้น
ทุ่งดอกหญ้าช่วงฤดูหนาว จะมีความสวยงามมาก


เมืองเชียงคาน-เลย


       เมืองเชียงคาน เมืองโบราณ.. บ้านไม้เก่าๆ ร้านกาแฟ มุมหนังสือเล็กๆ เท่านั้น แต่กลับมีนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว เดินเที่ยวกันให้เต็มไปหมด อาจจะด้วยเพราะเมืองเชียงคานนี้เงียบสงบ บรรยากาศดี ด้วยการที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์แต่ผสมผสานกับความเป็นสมัยใหม่ที่ไม่มากจนเกินไปได้อย่างลงตัวในแบบฉบับของเชียงคาน ผู้คนที่เชียงคานก็เป็นมิตร อัธยาศัยดี และการไปเที่ยวที่เชียงคานก็ไม่แพงจนเกินกำลัง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเชียงคานแห่งนี้ ก็จะเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น หลายๆ สิ่งที่เชียงคานอาจเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม เชียงคานจะไม่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าเราทุกคนยังคงช่วยกันรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ดำรงวิถีชีวิตในแบบของเชียงคานสืบไป ความเป็นเชียงคานที่คงความเป็นเอกลักษณ์ได้ยาวนานกว่าร้อยปีเชียงคาน เป็นชื่อที่ผมคุ้ยเคยเป็นอย่างดี แต่ยังไม่เคย ได้ไปสัมผัสสักครั้ง ดังนั้นจึงตั้งไว้เป็นปณิธานเลยว่าใน ชีวิตนี้ผมต้องไปเยือนที่แห่งนี้ให้ได้ และแล้วการค้นหาข้อมูลก็เริ่มขึ้น "เชียงคาน" เป็นอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่ง ของ จ.เลย         
                   
http://chiangkhan-tour.blogspot.com/2010/04/blog-post_13.html

วัดร่องขุน(สถาปัตยกรรมอันล้ำค่า)


วัดร่องขุน   จ.เชียงราย


โบสถ์ในเขตพุทธวาส เปรียบเหมือนบ้านของพระพุทธเจ้า สีขาวแทนพระบริสุทธิ์คุณของพระเจ้า กระจกขาว หมายถึงพระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้าที่แปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล
           


 สะพานหมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ก่อนขึ้นสะพานครึ่งวงกลมเล็กหมายถึง โลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามาร หรือพระราหูหมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทุกข์ ผู้ใดจะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองทิ้งลงไปในปกพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตเราให้ผ่องใสถึงจะเดินผ่านขึ้นไป บนเส้นของสะพานจะประกอบไปด้วยอสูรอมกัน ๑๖ ตัว ข้างละ ๘ ตัว หมายถึง อุปกิเลส ๑๖ จากนั้นก็จะถึงกึ่งกลางสะพาน หมายถึงเขาพระสุเมรุ เป็นที่อยู่ของเทวดา ด้านล่างเป็นสระน้ำ หมายถึงสีทันดรมหาสมุทร มีสวรรค์ตั้งอยู่ ๖ ชั้น แทนด้วยดอกบัวทิพย์ ๑๖ ดอกรอบอุโบสถ ดอกที่ใหญ่สุด ๔ ดอก ตรงทางขึ้นด้านข้างโบสถ์ หมายถึงซุ้มพระอริยเจ้า ๔ พระองค์ ประกอบด้วยพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระนาคามี และพระอรหันต์ เป็นสงฆ์สาวกที่เราควรกราบไหว้บูชาก่อนขึ้นบันไดครึ่งวงกลม หมายถึง โลกกุตตรปัญญา บันไดทางขึ้น ๓ ขั้น แทน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ผ่านแล้วจึงไปสู่แผ่นดินของอรูปพรหม ๔ แทนด้วยดอกบัวทิพย์ ๔ ดอก และบานประตู ๔ บาน บานสุดท้ายเป็นกระจกสามเหลี่ยมแทนความว่าง (ความหลุดพ้น) แล้วจึงจะก้าวข้ามธรณีประตูเข้าสู่พุทธภูมิ    เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.30 - 18.00 น

ดอยสุเทพ


พระบรมธาตุดอยสุเทพเป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ สูงจากระดับน้ำทะเล ๑๐๐๐ เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง ห่างจากตัวเมืองเก่าประมาณ ๑๐ กิโลเมตร สามารถมองเห็นจากตัวเมืองได้ชัดเจน และเมื่อขึ้นไปอยู่ที่พระบรมธาตุ ก็จะเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ได้ทั้งหมด มีบันไดนาคเจ็ดเศียรทอดจากทางขึ้นไปถึงซุ้มประตูวัด จำนวน ๓๐๐ ขั้น ครูบาศรีวิชัยได้บอกบุญชักชวนชาวเหนือ ให้ช่วยกันสร้างถนนจากเชิงดอยไปจนถึงยอดดอย ณ ที่ตั้งพระบรมธาตุตามตำนานกล่าวว่า เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งได้เสด็จมายังดอยอุจฉุปัพพต เพื่อฉันภัตตาหาร พร้อมด้วยพระสาวก ณ ที่นี้มีย่าแสะแม่ลูกได้ตักบาตรถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้า พระองค์จึงมอบพระเกศาธาตุให้ประดิษฐานไว้ที่ดอยแห่งนี้ ตามประวัติพระเจ้ากือนา กษัตริย์พระองค์ที่ ๘ ของ ราชวงศ์เชียงราย ได้พระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียร จากพระมหาเถรองค์หนึ่งที่ได้นำมาจากเมืองสุโขทัย ในชั้นต้น พระองค์ได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุนี้ไว้ที่วัดสวนดอก
http://th.wikipedia.org/wiki

ปลายทางหิมาลัย(ดอยอินทนนท์)



       อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ "ป่าสงวนแห่งชาติดอยอินทนนท์" ต่อมาได้ถูกสำรวจและจัดตั้งเป็นหนึ่งในสิบสี่ ป่าที่ทางรัฐบาลให้ดำเนินการเป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งครั้งแรกกรมป่าไม้เสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ให้มีพื้นที่ 1,000 ตร.กม. หรือประมาณ 625,000 ไร่ แต่เนื่องจากพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ อาศัยอยู่ก่อนหลายชุมชน จึงทำการสำรวจใหม่ และกันพื้นที่ที่ราษฎร อยู่มาก่อน และคาดว่าจะมีปัญหาในอนาคตออก จึงเหลือพื้นที่ที่จะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 270 ตร.กม. หรือประมาณ 168,750 ไร่ ประกาศลงวันที่ 2 ตุลาคม 2515 และในวันที่ 13 มิถุนายน 2521 รัฐบาลประกาศพื้นที่เพิ่มอีกเป็น482.4 ตร.กม. อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ มีความสูงจากระดับน้ำทะลปานกลาง 400-2,565.3341 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย สำหรับวัตถุประสงค์ในการกำหนดที่ดินให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 25044







โครงการนี้เกิดขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของกล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ที่กำลังจะหมดไปจากป่าธรรมชาติ สภาพแวดล้อมเป็นสวนหินที่สวยงาม และทางโครงการฯ ได้จัดทำสวนกล้วยไม้ และสวนดอกไม้เมืองเหนือไว้อย่างสวยงาม





เก๋โก้เมืองปาย



อำเภอปาย เป็นอำเภอขนาดเล็กทางตอนเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวชมความงามตามธรรมชาติ  เป็นที่ราบแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำหลายสาย คือ น้ำปาย น้ำของ และน้ำแม่ปิงน้อย อีกทั้งมีลำห้วยอีกหลายสาย คือ ห้วยแม่เมือง ห้วยแม่เย็น และห้วยแม่ฮี้  อำเภอปายเป็นเมืองเก่าแก่ ประชากรที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนแห่งนี้มาแต่เดิมคือชาวพ่ายหรือไปร ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใช้ภาษาตระกูลออสโตร-เอเชียติก สาขาว้า-เรียง ดังมีร่องรอยหลักฐานซากวิหารและเจดีย์กระจายอยู่ทั่วไปทั้งบนภูเขาสูง ที่ดอนเชิงเขา บริเวณพื้นราบลุ่มน้ำปาย บางแห่งก่อสร้างด้วยหิน เช่น ในผืนป่าบริเวณใกล้น้ำตกเอิกเกอเต่อ ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่ปิงน้อย บางแห่งมีการขุดคูเป็นร่องลึกบนภูเขาสูงชัน มีเจดีย์บนยอดเขา



วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

ปราสาทเขาพนมรุ้ง

ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนา ในช่วงแรกปราสาทหินพนมรุ้ง สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้งสูง 1,320 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ชื่อพนมรุ้งแปลว่าภูเขาใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15-18 จารึกต่าง ๆ ที่นักวิชาการได้อ่านและแปลพอจะสรุปได้ว่า พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 3 กษัตริย์แห่งเมืองพระนคร (พ.ศ. 1487-1511) ได้สถาปนาเทวาลัยถวายพระอิศวรที่เขาพนมรุ้ง ซึ่งในสมัยแรก ๆ คงยังไม่ใหญ่โตนัก ต่อมาพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 (พ.ศ. 1511-1544) ได้ทรงอุทิศที่ดินและข้าทาสถวายแด่เทวสถานพนมรุ้ง ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 นเรนทราทิตย์ เจ้านายแห่งราชวงศ์มหิทรปุระที่ปกครองดินแดนแถบนี้ (ซึ่งเป็นต้นตระกูลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้างนครวัด) ได้สร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นและได้ทรงบำเพ็ญพรตเป็นโยคี ณ ปราสาทพนมรุ้ง